ความรู้เบื้องต้นของ CCTV กล้องวงจรปิด

คุณจำเป็นต้องมีอุปกรณ์ใดบ้างในระบบกล้องวงจรปิด

ระบบกล้องวงจรปิดนั้นประกอบไปด้วย 3 ส่วนที่มีหน้าที่แตกต่างกัน ได้แก่ เครื่องบันทึกวิดีโอแบบดิจิตอล (Digital Video Recorder, DVR) ตัวกล้องสำหรับบันทึก และอุปกรณ์เสริมเช่น สายไฟ และตัวผลิตพลังสำรอง

1. CCTV DVR recorder (เครื่องบันทึกวิดีโอแบบดิจิตอล)

เครื่องบันทึกวิดีโอแบบดิจิตอล หรือ DVR เป็นหัวใจของระบบกล้องวงจรปิดของคุณ ไม่เพียงแต่ทำการเก็บภาพแต่ยังกำหนดวิธีการที่ภาพเหล่านั้นจะปรากฏบนหน้าจอ DVR ช่วยให้คุณสามารถเลือกตัวเลือกในรูปแบบที่แตกต่างกันในการบันทึก และในส่วนของกล้อง CCTV ที่ทันสมัยมากกว่าทั่วไปยังสามารถช่วยให้คุณเข้าถึงบันทึกของกล้องวงจรปิดจากระยะไกล โดยผ่านทางระบบอินเตอร์เน็ต ไม่ว่าจะเป็นเครื่องคอมพิวเตอร์ หรือโทรศัพท์มือถือของคุณ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ DVR กรุณาคลิกที่หน้าวิธีการซื้อ DVR ครับ

2. CCTV camera (กล้องจับภาพ)

ตัวกล้องนั้นเปรียบเสมือนกับดวงตาของระบบกล้องรักษาความปลอดภัย โดยกล้องนั้นมีหลากหลายรูปแบบในท้องตลาดซึ่งนั่นก็เป็นสาเหตุที่ทำให้การเลือกซื้อกล้องที่ดีนั้นยากขึ้นไปอีก กรุณาเลือกตัวเลือกที่คุณคิดว่าสำคัญที่สุดข้างล่างนี้ นอกจากนี้ทางทีมงานขาย และทีมช่างเทคนิคของเรายังพร้อมที่จะให้บริการ และช่วยคุณเลือกกล้องที่เหมาะที่สุดสำหรับคุณ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับกล้องวงจรปิด กรุณาคลิกที่หน้าคู่มือการซื้อกล้องวงจรปิดครับ

3. CCTV accessory (อุปกรณ์ต่าง ๆ)

เมื่อใดก็ตามที่คุณได้ทำการเลือกเครื่องบันทึกวิดีโอแบบดิจิตอล และกล้องจับภาพสำหรับระบบ CCTV ของคุณแล้ว สิ่งที่คุณจะต้องพิจารณาถัดมาคือ สายไฟ ระบบไฟสำรอง อุปกรณ์เชื่อมต่อ จอแสดงผล และอื่น ๆ ที่จะทำให้ระบบกล้องวงจรปิดของคุณนั้นสมบูรณ์ หนึ่งในสิ่งที่สำคัญที่สุดเกี่ยวกับระบบนี้คือ ทุก ๆ อุปกรณ์นั้นจะต้องสามารถใช้งานด้วยกันได้อย่างดี

1. ประเมินความต้องการของคุณเสียก่อน

• คุณต้องการที่จะตรวจระบบการเข้า-ออกทั่วไปรึเปล่า?
• คุณต้องการที่จะเห็นใบหน้า สินค้า หรือฝูงชน อย่างชัดเจนไหม?
• คุณต้องการกล้องรักษาความปลอดภัยแบบไร้สาย หรือมีสาย?
• คุณต้องการจะติดกล้องวงจรปิดในที่ร่ม หรือหรือกลางแจ้ง?
• คุณต้องการจะใช้กล้องแบบ IP Network Cameraไหม?(IP Network Camera คือ กล้องที่สามารถที่จะติดตั้งได้โดยไม่ต้องเชื่อมต่อเข้ากับเครื่องคอมพิวเตอร์ และคุณสามารถเข้าไปชมภาพได้ทันทีผ่านการต่อเชื่อมทางอินเตอร์เน็ต)
• คุณต้องการกล้องวงจรปิด 1, 2, 8 หรือ 16 ตัว ไหม?
• งบประมาณของคุณนั้นมีเท่าไร?

2. เลือกประเภทของกล้อง

โดยอ้างอิงจากความต้องการและสภาพแวดล้อมสำหรับการบันทึกภาพของคุณ ซึ่งคุณควรเลือกกล้องที่ดีที่สุด

แบบมีสาย: เป็นกล้องสีตามมาตรฐานการรักษาความปลอดภัยแบบมีสาย กล้องรักษาความปลอดภัยแบบมีสายนั้นนิยมติดตั้งทั้งในที่ร่ม และกลางแจ้งอีกทั้งยังมีระบบ IR (อินฟราเรด) ซึ่งเป็นตัวกรองสำหรับวิสัยทัศน์ในเวลากลางคืน (ภาพของกล้องในเวลากลางคืนนั้นจะเป็นสีขาว-ดำเพื่อคงความคมชัด และสามารถเก็บรายละเอียดของภาพ) กล้องวงจรปิดแบบมีสายนั้นมักจะใช้อุปกรณ์แปรงไฟฟ้าแบบ BNC เพื่อส่งสัญญาณวิดีโอไปยังเครื่องบันทึกภาพ

แบบไร้สาย: คนเป็นจำนวนมากที่หันมาใช้กล้องวงปิดแบบไร้สายเนื่องจากเป็นระบบที่มีประสิทธิภาพสำหรับการป้องกันทรัพย์สินทั้งภายในบ้าน และออฟฟิต และล่าสุดนี้กล้องวงจรปิดแบบไร้สายนั้นยังปลอดภัยจากการแทรกแซงของคลื่นไฟฟ้าจากอุปกรณ์เครื่องใช้ภายในบ้าน และนำเสนอทั้งภาพ-เสียงได้อย่างไร้ที่ติ

IP / network  IP (Internet protocol = เกณฑ์วิธีอินเตอร์เน็ต) หรือกล้องแบบเครือข่ายก็เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง กล้องเหล่านี้จะทำการเชื่อมต่อกับอุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อคอมพิวเตอร์ ซึ่งวิธีการเชื่อมต่อนั้นเหมือนกับเครื่องคอมพิเตอร์ หรืออุปกรณ์อื่น ๆ สำหรับกล้องแบบ IP นั้นมีข้อดีหลายประการ

• สัญญาณภาพอนาล็อกแบบธรรมดาจะอ่อนกว่าหากต้องมีการส่งสัญญาณเป็นระยะไกล แต่ในขณะเดียวกันกล้องแบบ IP จะใช้ไฟล์ภาพแบบดิจิตอลและจะต้องทำการแปลงสัญญาณ ทำให้ปัญหาในการส่งสัญญาณในระยะไกล ๆ นั้นหายไป ดังนั้นหากคุณต้องการคุณภาพของวิดีโอมากกว่าที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับความยาวของสายเคเบิ้ลแล้วกล้องนี้อาจจะเป็นตัวเลือกที่ดี
• กล้องแบบ IP สามารถรับกระแสไฟฟ้าได้เหมือนกับระบบอินเตอร์เน็ตซึ่งเป็นระบบที่ใช้ในการส่งไฟล์วิดีโอ และเสียง คุณไม่จำเป็นที่จะต้องกังวลเกี่ยวกับเสียงแตก หรือ RS-485 และแม้กระทั่งสายไฟต่าง ๆและนี่เองคือสาเหตุที่ว่าทำไมกล้องวงจรปิดแบบ IP จึงง่ายในการติดตั้ง
• เครือสายอินเตอร์เน็ตบนโครงข่าย IP จะถือเอาคำสั่งเพื่อให้ระบบการตั้งค่ากล้อง และระบบอื่น ๆ อีกมากมาย เช่น การซูมเข้า-ออก 

3. ประเภทและคุณภาพของชิปภาพถ่ายภายในกล้อง

กล้องวงจรปิดรักษาความปลอดภัยผลิตภาพโดยอาศัยการทำงานของชิปแบบ CMOS และ CCD (เป็นการใช้แบบคู่) ซึ่งโดยปกติแล้วกล้องวงจรปิดที่มีขนาดเล็ก หรือราคาถูกมากมักจะใช้เทคโนโลยีระบบ CMOSทำให้คุณภาพของภาพ และแสงในวิดีโอนั้นแย่มาก ในส่วนของกล้องวงจรปิดที่มีคุณภาพมากกว่ามักจะใช้ระบบ CCD ขนาดของชิปสำหรับระบบ CCD จะอยู่ที่ 1/4 ", 1/3" หรือ 1/2 " นิ้ว โดยยิ่งมีขนาดใหญ่เท่าใด ยิ่งมีคุณภาพเท่านั้น และราคาก็ค่อนข้างที่จะสูงกว่าด้วย อย่างไรก็ดีในกรณีที่เราจะทำการแนะนำลูกค้า เรามักจะแนะนำให้ใช้กล้องแบบ 1/3 "CCD ชิป เพราะกล้องเหล่านี้นั้นค่อนข้างที่จะคุ้มค่าเงิน

4. เลือกขาว-ดำ หรือแบบสี

ถ้าคุณต้องการที่จะใช้ในสภาพแวดล้อมที่มีสภาพแสงที่ค่อนข้างต่ำมาก เราจะแนะนำให้ซื้อกล้องวงจรปิดระบบที่เป็นสีขาว-ดำ สำหรับกล้องสีนั้นจะเหมาะกับการใช้ภายในอาคารซึ่งเปี่ยมไปด้วยสภาพแสงที่ดีเสียมากกว่า แต่ถ้าหากคุณมองหากล้องที่เปี่ยมไปด้วยคุณภาพแล้ว กล้องแบบสีนับเป็นตัวเลือกที่เหมาะสม เพราะสามารถใช้ได้ทั้งภายในอาคาร และกลางแจ้ง และในหลากหลายรุ่นที่มีความละเอียดสูงจะมีตัวกรองแสง IR สำหรับวิสัยทัศน์ที่ชัดขึ้นในยามค่ำคืน

5. เข้าใจระดับแสง

ระดับแสงเป็นคุณสมบัติที่สำคัญมาก การวัดระดับแสงนั้นจะวัดจากความสว่าง (Lux) ยิ่งตัวเลขที่ต่ำยิ่งหมายถึงความสว่างของแสงที่น้อยและยิ่งทำให้ภาพนั้นชัดได้ยากขึ้น

6. เข้าใจถึงความคมชัดของภาพ

ยิ่งจำนวนความละเอียดของภาพสูงเท่าไร นั่นยิ่งแสดงถึงความคมชัดของภาพ ความละเอียดของกล้องนั้นจะเริ่มต้นอยู่ที่ 330 โดยกล้องระดับมาตรฐานจะมีความละเอียดอยู่ที่ 400-500 TVL และกล้องที่มีคุณภาพสูงจะเริ่มต้นค่าความละเอียดที่มากกว่า 500 TVL

7. เลือกจอภาพ 

ว่าตรงกับความละเอียดของระบบกล้องวงจรปิดกล้องของคุณรึเปล่า

8. เลือกเครื่อง DVR (กล้องวงจรปิดแบบบันทึกวิดีโอ) 

DVR (Digital Video Recorder) ซึ่งทำงานโดยการบันทึกลงบนฮาร์ดไดรฟ์เป็นตัวเลือกที่ดีที่สุด เครื่อง DVR ทั้งหมดจะทำการบันทึกภาพไปยัง SATA (Serial Advanced Technology Attachment) ฮาร์ดไดร์ฟที่ถูกสร้างอยู่ภายใน ซึ่งจะไม่เหมือนกับอันที่อยู่ในคอมพิวเตอร์ทั่วไป SATA คือระบบการรับส่งข้อมูลแบบอนุกรมโดยจะส่งข้อมูลทีละบิตเรียงกัน ทำให้สามารถรับส่งข้อมูลได้เร็วกว่า และมีประสิทธิภาพมากกว่าในการเชื่อมต่อกับฮาร์ดไดรฟ์ ในส่วนของฮาร์ดไดร์ฟนั้นจะจำหน่ายแยกต่างหากจาก DVR เพราะความต้องการของผู้ใช้ในการบันทึกความยาวของภาพนั้นแตกต่างกันไป โดยฮาร์ดไดร์ฟจะเริ่มต้นที่ 500 GB ขึ้นไปถึง 2,000 GB หรือ 2TB ยิ่งคุณต้องการบันทึกภาพนานเท่าไรคุณย่ิ่งต้องการฮาร์ดไดรฟ์ที่มีขนาดใหญ่ สำหรับระบบการบันทึกภาพแบบเล็ก ๆ ทั่วไปเราจะแนะนำที่ 500 GB

คุณต้องการใช้ผ่านโทรศัพท์มือถือของคุณไหม? เพียงคุณทำการตั้งค่าระบบ DVR ไปที่อุปกรณ์ที่ใช้ในการเชื่อมต่อเครือข่ายอินเตอร์เน็ต ซึ่งจะทำให้คุณเข้าถึงระบบกล้องวงจรปิดได้จากในระยะไกลเมื่ออยู่ห่างจากบ้าน หรือที่ทำงาน ถ้าหากคุณต้องการดูภาพวงจรปิดผ่านทางโทรศัพท์มือถือ ขอให้มั่นใจก่อนว่าคุณได้เลือกเครื่อง DVR ที่รองรับกับระบบนี้